สัญญาเช่าแผงค้า สัญญาเช่าแผง สัญญาแผงเช่าตลาด หนังสือสัญญาเช่าล็อคขายของ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องทำความเข้าใจ ทั้งเงื่อนไขการทำสัญญา ทั้งสิทธิหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า ข้อกำหนดระหว่างการเช่า รวมถึงเพื่อใช้ในการรักษาสิทธิ์และลดข้อพิพาทต่อกันในอนาคต

  • สัญญาเช่าตลาด: จะใช้ในกรณีที่ผู้เช่าต้องการเช่าเพื่อนำไปบริหารต่อ โดยสัญญาจะเป็นระยะยาว อยู่ในช่วง 3 – 10 ปี เป็นต้นโดยจะเช่าทั้งตลาด หรือเช่าเฉพาะโซน ขึ้นอยู่ตามที่ได้ตกลงกันในสัญญา
  • สัญญาเช่าพื้นที่: ใช้สำหรับเช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจ เช่น เช่าพื้นที่ทำร้านค้า เช่าพื้นที่ทำออฟฟิศ หรือเช่าพื้นที่เพื่อทำโกดังเก็บสินค้า เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับอาคาร สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ โดยระยะเวลาให้เช่า จะอยู่ที่ 6 เดือน จนถึง 3 ปี หรือมากกว่านั้น
  • สัญญาพื้นที่เช่า: มีลักษณะที่คล้ายกับ สัญญาเช่าพื้นที่ แต่จะใช้ในการเช่าพื้นที่ที่มีบริบทที่กว้างขึ้น โดยจะเป็นการเช่าพื้นที่ว่างเพื่อทำการค้า หรือใช้ทำประโยชน์ในระยะยาว อาทิ อาคารพาณิชย์ พื้นที่อเนกประสงค์ หรือพื้นที่ว่างที่มีขนาดใหญ่ โดยระยะเวลาในการทำสัญญาปกติจะอยู่ที่ 1 – 5 ปี
  • สัญญาตลาด: ใช้สำหรับเช่าพื้นที่ในตลาด โดยอาจหมายถึงสัญญาเช่าตลาดหรือสัญญาเช่าแผงค้าในตลาด โดยส่วนใหญ่ใช้ในการเช่าพื้นที่ภายในตลาดสด ตลาดนัด รวมถึงพื้นที่ศูนย์อาหาร โดยสัญญาสามารถทำได้ทั้งแบบรายวัน รายเดือน ไปจนถึงรายปี
  • สัญญาเช่าแผงค้า: สัญญาให้เช่าที่ทำขึ้นสำหรับพ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ค้าที่ต้องการเช่าแผงค้าเล็ก ๆ ภายในตลาดหรือศูนย์อาหาร เพื่อทำการค้าขาย โดยทางตลาดจะคิดค่าเช่าเป็นแบบรายวัน รายเดือน หรือรายปี ขึ้นอยู่กับสัญญาหรือเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน
สัญญาเช่าตลาด สัญญาเช่าแผงค้า ฉบับอัปเดต

ในการทำสัญญาเช่าไม่ว่าจะเป็นสัญญาเช่าตลาด สัญญาเช่าแผงค้า สัญญาเช่าล็อคขายของ หรือสัญญาใดก็ตามก่อนทำการลงนามต้องตรวจสอบรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ตรวจสอบความถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดในสัญญาเช่าจะต้องมีเนื้อหาที่ครบ และครอบคลุมทั้งฝั่งผู้ค้าและฝั่งเจ้าของตลาด

องค์ประกอบในสัญญาจะต้องระบุถึงประโยชน์ สิทธิ หน้าที่ และข้อปฏิบัติ ที่ทั้งสองฝ่ายทำการตกลงกัน โดยประกอบไปด้วย

  • ระบุถึงสิทธิหน้าที่บุคคล ที่หมายถึง ผู้ทำสัญญา ที่อาจเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ได้ โดยคู่สัญญาจะต้องมีความสามารถตามกฎมาย ที่สามารถทำตามข้อตกลงในสัญญาได้
  • ระบุวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ในสัญญา เป็นการระบุเป้าหมาย หรือประโยชน์สุดท้ายที่จะได้จากสัญญา โดยในวัตถุประสงค์ หรือประโยชน์จะต้องชอบด้วยสัญญาและชอบด้วยกฎหมาย
  • ระบุเจตนา การระบุเจตนาหรือความมุ่งหมายที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องตรงกัน และเพื่อให้คู่สัญญาเข้าใจเงื่อนไขร่วมกัน เพื่อลดปัญหา หรือข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และทำให้การต่อสัญญาเช่าเป็นไปอย่างราบรื่น และมีการต่อสัญญาเช่ากันในไประยะยาว

นอกจากองค์ประกอบของสัญญาเช่า ที่ระบุถึงสิทธิหน้าที่ ระบุวัตถุประสงค์ และระบุเจตนาแล้วนั้น ภายในหนังสือสัญญาเช่า จะต้องมีรายละเอียดของทั้งฝั่งผู้ค้าและเจ้าของตลาดอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่อาศัย  และรายละเอียดเบื้องต้นของทั้งสองฝ่ายอย่างครอบคลุมและครบถ้วน

ที่สำคัญจะต้องระบุถึงข้อมูลพื้นฐานของทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ วันที่ทำสัญญา ฯลฯ และภายในหนังสือสัญญาจะต้องมีเงื่อนไข เวลามัดจำ และเบี้ยปรับ

  • โดยเงื่อนไขจะต้อง ระบุถึงเหตุการณ์ หรือ การกระทำที่ยังไม่มาถึงในอนาคต โดยคู่สัญญาจะทำการตกลงกันว่าจะผูกพันตามสัญญาก็ต่อเมื่อเหตุการณ์หรือการกระทำนั้น ๆ เกิดขึ้น
  • เงื่อนไขเวลา เป็นการระบุถึงเวลาหรือการกำหนดเวลาที่คู่สัญญาตกลงให้เกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากการแสดงเจตนา
  • เงื่อนไขการมัดจำ คือ ทรัพย์สินที่คู่สัญญาตกลงให้อีกฝ่ายหนึ่งยึดไว้เป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญา
  • เงื่อนไขการกำหนดเบี้ยปรับ คือเงินที่คู่สัญญาตกลงให้ฝ่ายหนึ่งชำระคืนในกรณีที่คู่สัญญาทำผิดกฎระเบียบ หรือกรณีที่คู่สัญญาทำผิดสัญญา
สัญญาเช่าตลาด หนังสือสัญญาเช่าล็อคขายของ

การระบุเนื้อหา ระบุเงื่อนไข หรือระบุรายละเอียด ในสัญญาเช่าแผงค้า สัญญาเช่าล็อคขายของ หนังสือสัญญาเช่าแผงขายของ อย่างละเอียด นอกจากจะลดข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้แล้วนั้น ยังช่วยให้คู่สัญญารับรู้สิทธิ หน้าที่ของตนเอง อีกทั้งยังเสริมความเชื่อมั่น และลดข้อโต้แย้งของทั้งฝ่ายได้ด้วย

ที่สำคัญสัญญาเช่ายังสามารถบังคบใช้ได้ตามกฎหมาย ก่อนที่จะทำสัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนและทำข้อตกลงที่โดยเห็นต้องกันทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน

ท้ายนี้ภายในหนังสือสัญญาจะต้องแนบเอกสารแนบท้ายสัญญาเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในสัญญา โดยอาจจะมีรายละเอียดแนบท้ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับราคาค่าเช่า สินค้าที่ต้องการขาย สินค้าที่กำหนด หรืออาจจะระบุเนื้อหาอื่น ๆ ที่ต้องการลงไปเพื่อให้เข้าใจและรับรู้กันทั้งสองฝ่าย

ประโยชน์ของสัญญาเช่านอกจากจะช่วยลดข้อเสียเปรียบให้กับคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ยังทำให้เจ้าของตลาดสามารถเช็กข้อมูลของสินค้า หรือแผงค้าในตลาดได้ด้วย ช่วยลดการขายสินค้าในตลาดที่มากเกินไป ช่วยลดการเกิดแผงค้าซ้ำหรือทับซ้อนกัน และยังเป็นประโยชน์กับทางฝั่งผู้ค้า ช่วยให้ตัดสินใจเลือกสินค้ามาขายได้โดยไม่ซ้ำหรือทับซ้อนกับแผงค้าอื่น เป็นการกระจายสินค้าและกระจายรายได้ให้กับทั้งผู้ค้าและเจ้าของตลาด

เจ้าของตลาดยุคใหม่อยากเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้า และผู้ค้า ต้องมีโปรแกรมบริหารตลาด Myket Pro เข้ามาช่วย Myket Pro คือ โปรแกรมบริหารตลาดสำหรับเจ้าของตลาดอยากบริหารตลาดให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ต้องมีโปรแกรมบริหารจัดการตลาด MyKet Pro เข้ามาช่วย เพราะเราคือโปรแกรมบริหารจัดการตลาดที่คิดมาเผื่อเจ้าของตลาดโดยเฉพาะ ทั้งช่วยดูแลระบบการจ่ายเงิน ระบบการเก็บเงิน การออกบิลต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยดูแลเรื่องการจัดการแผงค้าภายในตลาดได้ด้วยระบบ 2D Plan เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมบริหารตลาดที่ตอบโจทย์เจ้าของตลาดรุ่นใหม่สุด ๆ

Myket Pro คือโปรแกรมที่เราคิดมาเผื่อสำหรับเจ้าของตลาดโดยเฉพาะ ทั้งช่วยดูแลระบบการจ่ายเงิน ระบบการเก็บเงิน การออกบิลต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยดูแลเรื่องการจัดการแผงค้าภายในตลาดได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมบริหารตลาดที่ตอบโจทย์เจ้าของตลาดรุ่นใหม่สุด ๆ มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานของตลาดโดยเฉพาะ เราคิดค้นและพัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานในตลาดง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง