การก่อตั้งตลาดฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงต้องจัดการทุกอย่างและต้องรับมือกับภาระในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการรับมือกับการ ตั้งราคาค่าแผงค้า ในตลาด ไม่ให้ขาดทุน
เจ้าของตลาดมือใหม่หลายคนมักตกม้าตายเพราะการคิดราคาค่าเช่าแผงค้า โดยจะคิดอย่างไรให้คุ้ม หรือให้พ่อค้าแม่ค้ารู้สึกคุ้มค่าและไม่แพงจนเกินไป เพื่อจะได้ทำสัญญากันในระยะยาว
การ ตั้งราคาค่าแผงค้า สำคัญอย่างไร
ในการบริหาร ตลาดนัด, ตลาดสด หรือ คอมมูนิตี้มอลล์ หนึ่งในปัจจัยที่เจ้าของตลาดต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ คือ “การตั้งราคาค่าแผงค้าในตลาด” หรือ “การกำหนดราคาค่าเช่าพื้นที่ขายของ” ให้เหมาะสมกับต้นทุนและศักยภาพของตลาดนั่นเอง
หากตั้งราคาค่าเช่าผิด
- ตั้งราคาต่ำเกินไป → ขาดทุน ไม่คุ้มค่าการลงทุน
- ตั้งราคาสูงเกินไป → ผู้ค้าไม่มาเช่า แผงว่าง ตลาดซบเซา
เพื่อไม่ให้ตลาดขาดทุนและไม่เอาเปรียบผู้ค้ามากเกินไป บทความนี้จะพาคุณเข้าใจวิธีการคำนวณที่ถูกต้อง พร้อมแนวคิดและกลยุทธ์แบบมืออาชีพ เพื่อช่วยคุณบริหารตลาดให้ คุ้มทุน มีกำไร และเติบโตได้ระยะยาว

ขั้นตอนการตั้งค่าแผงตลาดอย่างมืออาชีพ
1. รวบรวมต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตลาด
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
- ค่าเช่าที่ดิน (กรณีตลาดอยู่บนพื้นที่เช่า)
- ค่าก่อสร้าง ลานปูพื้น โครงหลังคา เต็นท์
- ค่าออกแบบ ป้ายตลาด ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา
- ระบบจัดการหลังบ้าน เช่น โปรแกรมบริหารตลาด
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
- ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า (เฉลี่ยจากการใช้งานจริง)
- ค่าทำความสะอาด พนักงานแม่บ้าน
- ค่ารักษาความปลอดภัย
- ค่าการตลาดและประชาสัมพันธ์ตลาด
- ค่าบำรุง ซ่อมแซม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนะนำว่า การคำนวณต้นทุนควรแยกประเภทอย่างชัดเจน เพื่อให้นำไปคิดราคาแผงได้ตรงจุด และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย
2. วิเคราะห์ศักยภาพตลาด และกลุ่มเป้าหมาย
ตลาดที่ดี ไม่ได้ตั้งราคาจากต้นทุนเพียงอย่างเดียว ต้องดู “ความสามารถในการทำรายได้ของผู้ค้า” ร่วมด้วย อาทิ
- ทำเลตลาด: ใกล้ชุมชน โรงงาน สถานศึกษา หรือจุดคมนาคมหรือไม่?
- วันเวลาเปิด: เปิดทุกวัน หรือเปิดเฉพาะศุกร์ – อาทิตย์?
- ประเภทสินค้าในตลาด: อาหารสด อาหารพร้อมทาน แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ขายสินค้าประเภทไหน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มรายได้ให้กับผู้ค้าได้มากขึ้นด้วย
ประสบการณ์จากผู้ประกอบการจริง: ตลาดที่อยู่ในทำเลทอง อาจตั้งค่าแผงสูงได้มากกว่าตลาดชานเมืองถึง 30 – 50% เพราะผู้ค้ามองเห็นโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่า
3. ใช้สูตรคำนวณพื้นฐานในการตั้งค่าแผงตลาด
สูตรเบื้องต้นในการคำนวณราคาค่าเช่าแผงรายวัน
สูตร: (ต้นทุนรวม + กำไรที่ต้องการ) ÷ จำนวนแผง ÷ จำนวนวันเปิดตลาดต่อเดือน = ค่าแผงต่อวัน/ต่อแผง
ตัวอย่าง:
- ต้นทุนรวมต่อเดือน = 100,000 บาท
- ต้องการกำไร = 30,000 บาท
- จำนวนแผง = 100 แผง
- เปิด 20 วัน / เดือน
ค่าแผง = (100,000 + 30,000) ÷ 100 ÷ 20 = 65.- ต่อแผง ต่อวัน
จะเห็นว่าราคาค่าเช่าแผงที่ตั้งไว้ต้องครอบคลุมต้นทุน และ มี margin เพียงพอ
4. แบ่งโซนราคา เพื่อสร้างความหลากหลายในการเช่า
ตลาดที่ดีควรมีการ ตั้งราคาแผงตามโซน เพื่อรองรับผู้ค้าหลากหลาย เช่น:
- แผงหน้าทางเข้า: ราคาแพงสุด
- แผงด้านใน: ราคาปานกลาง
- โซนท้ายสุด / แผงทดลองขาย: ราคาประหยัด / ไม่สูงเกินไป
กลยุทธ์นี้ใช้ได้ดีในคอมมูนิตี้มอลล์ที่มี Traffic การเดินผ่านที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละโซน
5. วิเคราะห์ต้นทุนแฝงและปรับราคาตามฤดูกาล
ต้นทุนบางอย่างไม่สามารถเห็นชัดในตอนแรก เช่น
- ค่าภาษีที่ดิน
- ค่าบำรุงปีละ 1 – 2 ครั้ง
- ค่าอุปกรณ์ส่วนกลางที่ต้องเปลี่ยนตามอายุใช้งาน
ผู้เชี่ยวชาญจากวงการตลาดสดแนะนำ: ควรจัดทำ “ต้นทุนเฉลี่ยรายปี” แล้วถัวเฉลี่ยรวมไว้ในราคาค่าแผงแบบรายเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดขาดทุนแบบไม่รู้ตัว
6. ให้ความสำคัญกับการสื่อสารและความโปร่งใสต่อผู้ค้า
การปรับราคาค่าแผงควรมี เหตุผล และ สื่อสารล่วงหน้า อย่างชัดเจน เช่น
- ปรับปรุงไฟฟ้า / ระบบน้ำ
- เพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลตลาด
- ติดตั้งระบบจัดการหลังบ้าน เช่น การชำระเงินผ่านระบบ
เมื่อตลาดดูมืออาชีพขึ้น ผู้ค้าจะยอมรับการปรับราคาได้มากขึ้น และผู้ค้าจะเห็นผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมาชัดเจนเป็นรูปธรรม
7. ใช้ระบบบริหารจัดการตลาด ช่วยตั้งราคาค่าแผงได้แม่นยำ
หากคุณเป็นเจ้าของตลาดที่มีหลายแผงค้า หลายโซน หรือมีผู้ค้าเข้าออกเป็นประจำ การตั้งราคาแผงแบบแมนนวลอาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
แนะนำให้ใช้ระบบจัดการอย่าง Myket Pro ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย
- ตั้งราคาแผงตามโซน วัน และโปรโมชั่นได้
- บันทึกข้อมูลรายรับ – รายจ่าย อัตโนมัติ
- ส่งบิลค่าเช่าผ่านระบบไปยังผู้เช่าได้ทันที
- รายงานผลประกอบการแบบเรียลไทม์
- เรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

การตั้งค่าแผงตลาดให้คุ้มทุน ต้องมีการ “วางแผน”
การ ตั้งค่าแผงตลาดเป็นหัวใจของการบริหารตลาด และเพื่อให้ตลาดดำเนินการต่อได้อย่างยั่งยืน
การตั้งราคาค่าแผงค้า จะต้องมีการวางแผนที่ชัดเจน และสิ่งที่ไม่ควรทำในการตั้งราคาค่าเช่าแผง คือ
- อย่าดูแค่ตลาดใกล้เคียง
- อย่ากะราคาจากความรู้สึก
- ควรคำนวณจากต้นทุนจริง + วางกลยุทธ์สร้างความสมดุลระหว่างรายได้และความพึงพอใจของผู้ค้า
และหากอยากบริหารตลาดแบบมืออาชีพ การตั้งราคาค่าแผงที่แม่นยำ คุมต้นทุนและไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนในอนาคต Myket Pro คือคำตอบ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อการบริหารตลาดยุคใหม่โดยเฉพาะ และเพื่อการบริหารตลาดที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น